Saturday, August 27, 2011

เมื่อ Ball Flight Laws ใน PGA Manual ผิดพลาด

มันเป็นเรื่องตลกมากที่ Ball Flight Laws ที่สอนและเขียนอยู่ ใน PGA Manual มาเป็นเวลาหลายสิบปี
ขัดแย้งกับข้อมูลที่เครื่องไม้เครื่องมือสมัยใหม่ตรวจเช็คและค้นพบ และบอกว่าสิ่งที่สอนๆกันและใช้งาน
กันอยู่มันผิดจากความเป็นจริง แปลกใจไหมล่ะครับที่ถ่ายทอดและใช้งานหลักการที่ผิดๆกันมาได้อย่าง
ยาวนาน แม้แต่โปรสอนที่มีชื่อเสียงระดับโลก เขียนหนังสือ, สอนบน DVD, โค้ชนักกอล์ฟ PGA Tour
ได้แชมป์มากมาย ก็ยังสอนและแก้วงสวิงบนพื้นฐานของทฤษฎี Ball Flight Laws ที่ไม่ถูกต้อง
น่าแปลกใจเป็นอย่างมาก ดังนั้นจึงน่าจะบอกได้ว่าจริงๆแล้ว คนตีกอล์ฟด้วยความรู้สึกมากกว่า
การยึดติดกับทฤษฎีที่เข้าใจยาก ทัวร์โปรบางคนตีกอล์ฟด้วยความชำนาญ ตีกอล์ฟโดยไม่ได้รู้เลยว่า
หลักการในการตีดรอร์หรือเฟด เขาทำกันยังไง แต่รู้ว่าถ้าให้ตีเข้าเป้าแล้วโค้งซ้ายขวาต้องทำอย่างนี้
แต่อธิบายไม่ได้ ทั้งหมดเกิดจากประสบการณ์ ดังนั้นสิ่งที่โปรสอนระดับโลกแนะนำกันหรือแม้แต่สอน
โปรทัวร์บางทีมันอาจจะเข้าหูซ้ายทะลุหูขวาก็เป็นไปได้ ความสำเร็จและได้แชมป์ต่างๆ อาจไม่ได้มาจาก
ทฤษฏีหรือการปรับวงสวิงแต่อย่างใด มันอาจมาจากความมั่นใจและความไว้ใจที่นักกอล์ฟระดับสูง
ต้องการจากใครสักคนที่เอาไว้เป็นที่พึ่งพิงนั่นเอง ดังนั้นถ้าจะให้ระดับความสำคัญของการมีวงสวิงที่
สม่ำเสมอ ซึ่งอาจจะไม่ถูกต้องตามตำรา แต่เต็มไปด้วยความมั่นใจ จึงมักใจให้ผลที่ดีกว่าการมีวงสวิง
ที่ดีถูกต้องตามทฤษฎีแต่กลับไม่มั่นใจเป็นยิ่งนัก

สิ่งที่ได้เรียนรู้จาก New Ball Flight Laws คือ กอล์ฟเป็นเกมส์ของการบริหารจัดการความผิดพลาด
และความสม่ำเสมอ ดังนั้นสิ่งที่สำคัญเมื่ออยู่ในสนามกอล์ฟในช็อตนั้นๆนั่นก็คือ สัญชาตญาณและ
ความรู้สึกซึ่งมาจากการฝึกซ้อมและการตีจนวงสวิงและการควบคุมลูกกอล์ฟกลายเป็นธรรมชาติ
ที่ไม่ต้องเกี่ยวเนื่องกับทฤษฎีแต่อย่างใด ไม่ต้องมาคิดแล้วว่าจะตีอย่างนี้ต้องมีกลไกอย่างไร
มันต้องเกิดจากการฝึกซ้อมซึ่งมาจากการรู้หรือไม่รู้ทฤษฎีก็ตาม สุดท้ายปลายทาง ถ้าเราสามารถ
ควบคุมลูกกอล์ฟได้อย่างใจปลายทางเหมือนกัน เหมือนกับนักดนตรีที่เล่นเพลงเดียวกัน คนแรก
เป็นคนรู้ทฤษฎีเล่นดนตรีโดยการดูโน๊ต กับอีกคนหนึ่งเล่นดนตรีจากการฟังและเล่นจากความรู้สึก
สุดท้ายแล้วทั้งสองคนก็สามารถเล่นเพลงเดียวกันได้เหมือนกันและเล่นได้จบเพลงเหมือนกัน
แต่ความไพเราะที่ออกมาอาจจะแตกต่างกัน คนที่เล่นโดยการอ่านโน๊ตจะใช้ความรู้สึกน้อย
ถ้าต้องไปเล่นดนตรีในที่โล่งลมแรงนักดนตรีที่อ่านโน๊ตจะมีปัญหาที่ลมพัดแผ่นโน๊ตเพลงปลิว
กระจาย กับนักดนตรีที่เล่นจากการฟัง ใช้หูและความรู้สึกจะถ่ายทอดการเล่นด้วยอารมณ์
และความรู้สึก ซึ่งไม่มีข้อจำกัดในเรื่องสถานที่การเล่นแต่อย่างใด จะเล่นที่ไหนในสถานการณ์
ยังไงก็ย่อมได้ แต่มีข้อเสียตรงที่ หากต้องเล่นเพลงที่ซับซ้อน ก็จะมีปัญหาหน่อย แต่ถ้าเปรียบเทียบ
การเล่นกอล์ฟก็ไม่ต่างจากการเล่นดนตรีแต่ประการใด นักดนตรีที่เก่งส่วนใหญ่ก็ไม่รู้่ทฤษฎีดนตรี
เล่นด้วยการใข้ทักษะการฟังและลองผิดลองถูก นักกอล์ฟที่เก่งส่วนใหญ่ในทัวร์ก็เริ่มด้วยการเล่
ด้วยตัวเอง แต่การจะเป็นนักดนตรีหรือนักกอล์ฟให้ดีและเก่งเร็วขึ้น ควรรวมข้อดีของความสุดขั้วของ
สองพวกที่พวกหนึ่งก็ไม่เอาทฤษฎีเอาซะเลยและอีกพวกที่ทฤษฎีจ๋าซะงั้น ถ้าเรารู้ทฤษฎีและใช่้ทฤษฎี
เป็นพื้นฐานที่ฉลาดและแกล้งลืมมันไปซะบ้างพอถึงโหมดที่จะต้องลงมือในทางปฏิบัติ จะทำให้ขั้นตอน
ในการเรียนรู้ฉลาดขึ้นและเร็วขึ้น แต่สุดท้ายการทำสิ่งต่างๆอย่างชำนาญอยู่ที่ความเพียรและความ
ใส่ใจ จนทักษะเหล่านั้นกลายเป็นความชำนาญ ถึงขั้นสุดท้ายกลายเป็นธรรมชาติ อย่างที่เรียกได้ว่า
นักดนตรีสามารถถ่ายทอดการเล่นดนตรีเหมือนกับการสื่อสารได้อย่างการพูดออกมาเป็นคำพูด
กีร์ต้าที่อยู่ในมือเหมือนกับเป็นอวัยวะชิ้นหนึ่งของนักดนตรี นักกอล์ฟก็เช่นกันสวิงกอล์ฟโดยใช้ความรู้สึก
การตีตามระยะ, ทิศทาง, ควบคุมวิถีต่างๆ ทำได้เหมือนกับการกดปุ่มสั่งจรวดติดเรดาร์อย่างไงอย่างงั้น
กีฬากอล์ฟเป็นศิลปะมากการการสวิงอย่างกับหุ่นยนต์ มันเป็นเรื่องของอารมณ์ความรู้สึกไม่ต่างจาก
การเล่นดนตรีแต่ประการใด

อย่างไรก็ตาม New Ball Flight Laws เป็นความจริงที่ถูกเปิดเผยออกมา และนำไปใช้ประโยชน์ได้จริง เพราะจากวิถีทั้ง 9 แบบ Ball Flight Laws เดิม ถูกเพียง 3 วิถี อีก 6 วิถีจะทำให้เราต้องเผื่อทิศทาง
มากกว่าที่ควรจะเป็น ดังนั้น New Ball Flight Laws จะช่วยเพิ่มโอกาสที่ลูกจะเข้าเป้ามากขึ้นหาก
เราสามารถควบคุมวงสวิงได้สม่ำเสมอแล้ว