commitment to the fundamental notion that skill, not technology, should be the primary determinant of
success in the game."
USGA และ R&A คือ สององค์กรหลักที่ทำหน้าที่ควบคุมให้เกมส์กอล์ฟยังคงมนต์เสน่ห์ภายใต้พันธกิจร่วมตั้งแต่ปี 2002 ที่จะควบคุมไม่ให้เทคโนโลยีมามีผลที่เหนือกว่าทักษะในการเล่น พูดเอาให้เข้าใจง่ายๆ ก็คือ จะควบคุมไม่ให้นักกอล์ฟตีกอล์ฟได้ดีขึ้นจากผลของเทคโนโลยี และส่วนที่เทคโนโลยีเข้ามามีผลต่อเกมส์และสร้างความกังวลให้กับองค์กรทั้งสองมากที่สุด ก็คือ ระยะการไดร์ฟหัวไม้นั่นเอง
USGA และ R&A เผยแพร่ "2016 Distance Report" ออกมาในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2560 ที่เพิ่งผ่านมาไม่กี่วัน เป็นข้อมูลที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง จากกราฟใน Figure 1 ซึ่งเป็นผลจากการศึกษาและเก็บข้อมูลระยะไดร์ฟของนักกอล์ฟอาชีพในทัวร์หลัก โดย USGA และ R&A จะเห็นได้ว่า เทคโนโลยีของไดร์ฟเวอร์ไทเทเนียมตั้งแต่ปี 1995 ช่วยเพิ่มระยะการไดร์ฟขึ้นอย่างชัดเจน และตามด้วยการเปลี่ยนแปลงในเทคโนโลยีการผลิตลูกกอล์ฟตั้งแต่ปี 2000 ก็ทำให้ระยะการไดร์ฟหัวไม้เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเช่นกัน ด้วยเทคโนโลยีการผลิตหัวไม้และลูกกอล์ฟที่ทำให้ระยะการไดร์ฟเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ทำให้ USGA และ R&A ต้องออกกฏควบคุมหัวไม้และลูกกอล์ฟตามมา
จากกราฟใน Figure 2 การออกกฏควบคุมความเป็นสปริงของหน้าไม้ไดร์ฟเวอร์และลูกกอล์ฟ และพัฒนาการวิธีการในการวัดที่มีประสิทธิภาพ ทำให้เห็นผลว่าระยะไดร์ฟหัวไม้ตั้งแต่ปี 2003 มาจนถึงปี 2016 ระยะไดร์ฟเฉลี่ยในทัวร์ต่างๆมีขึ้นมีลง และไม่ได้เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญแต่ประการใด ... นี่คือข้อมูลจากการศึกษา ที่เหลือนักกอล์ฟลองเอาไปคิดต่อดู
พอจะสรุปความรู้จากผลการศึกษาชิ้นนี้ แล้วได้มุมมองที่น่าจะมีประโยชน์ของนักกอล์ฟไทย ทั้งสมัครเล่นและอาชีพดังนี้
1. ทุกทัวร์ชายไดร์ฟเฉลี่ยไกลกว่า Japan Tour ที่นักกอล์ฟหลักเป็นชาวเอเชีย จึงต้องยอมรับกันว่านักกอล์ฟเอเชียชายไดร์ฟสั้นกว่าฝรั่งอย่างแน่นอน
2. นักกอล์ฟอาชีพหญิงไดร์ฟเฉลี่ยประมาณ 245-250 หลา ก็ประมาณนักกอล์ฟอเมเจอร์ชายฝีมือดีนี่แหละ
3. web.com ทัวร์คือที่รวมของนักกอล์ฟวัยรุ่นตัวจี๊ดที่ไดร์ฟได้ไกล และมีศักยภาพพร้อมที่จะขึ้นมาปะทะกับรุ่นพี่ใน PGA Tour และ PGA Tour ก็คือทัวร์ของมือเก๋า ที่การไดร์ฟไกลไม่ใช่อาวุธเดียวที่สำคัญ แต่ความแม่นยำในส่วนอื่นของเกมส์ก็มีความสำคัญเป็นอย่างมาก
4. นักกอล์ฟที่จะอยู่ในทัวร์ได้ต้องพัฒนาระยะไดร์ฟให้อยู่ในเกณฑ์ค่าเฉลี่ย เพื่อไม่ทำให้เกมส์กอล์ฟของตนเสียเปรียบ
5. ระยะไดร์ฟเฉลี่ยใน Japan Tour ไม่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเลยในระยะ 10 กว่าปีหลังนี้ ทั้งที่โปรกอล์ฟในทัวร์ญี่ปุ่นใช้หัวไม้และก้านที่ขึ้นชื่อว่าใช้วัสดุค่อนข้างดีและมีเทคโนโลยีการผลิตที่สุดยอด
6. 14 ปีที่ผ่านมาระยะไดร์ฟเฉลี่ยในทัวร์เพิ่มขึ้นน้อยมาก บางทัวร์ลดลงด้วยซ้ำ มันขัดแย้งกับความคิดของเราไหม เพราะอะไร ลองพิจารณาในแง่มุมต่างๆดู
บทความนี้ให้ความรู้และมุมมองที่สำคัญมากสำหรับนักกอล์ฟอเมเจอร์ ที่ช่วยเตือนสติในการบริโภคข้อมูลข่าวสาร ชุดข้อมูลเหล่านี้ไม่ใช่ข้อสรุปสำหรับนักกอล์ฟทุกคน เพราะกลุ่มข้อมูลที่เก็บมานั้นเป็นนักกอล์ฟอาชีพที่อาจจะไม่ได้มีลักษณะการตีประเภทเดียวกับคุณ แต่เราจะเอาพื้นฐานของข้อมูลเหล่านี้ มาร่วมในการพิจารณาเพิ่มระยะด้วยการปรับเปลี่ยนหัวไม้สำหรับนักกอล์ฟสมัครเล่นกัน ... ติดตามนะครับ
No comments:
Post a Comment
Note: Only a member of this blog may post a comment.