Wednesday, February 22, 2017

094 - ตีไกล ตอน 30 - วิถีลูกกอล์ฟและเงื่อนไขที่ให้ระยะการไดร์ฟไกลที่สุด

ณ ปัจจุบัน ความรู้ในการโมเดลวิถีการเคลื่อนที่ของลูกกอล์ฟที่สามารถคำนวณออกมาเป็นระยะ Carry (ระยะจากตำแหน่งทีออฟจนถึงตำแหน่งลูกกระทบพื้น) ที่ใกล้เคียงกับความเป็นจริง ขึ้นอยู่บนเงื่อนไขหลัก 3 อย่าง ได้แก่

1. ความเร็วลูกกอล์ฟ (Ball Speed)
2. มุมเหิน (Launch Angle)
3. อัตราการหมุนของลูกกอล์ฟ (Ball Spin)

ในปัจจุบันเครื่อง Launch Monitor ที่มีหลากหลายเทคโนโลยี สามารถวัดค่าทั้ง 3 นี้ได้ แล้วคำนวณระยะตก (Carry) และ ระยะกลิ้ง (Roll) ออกมาเป็นตัวเลขและกราฟได้อย่างง่ายดาย แต่ในทางปฏิบัติ ระยะกลิ้งนั้นมีปัจจัยที่ไม่แน่นอนทั้งมุมตกกระทบพื้น (Landing Angle) และลักษณะพื้นผิวซึ่งในความเป็นจริงอาจจะมีสโลปและความแข็งที่แตกต่างกันไป ดังนั้นเวลาศึกษา Optimize Launch Condition จึงนิยมพิจารณาแต่ระยะ Carry ซึ่งยังไม่สมบูรณ์ในทางปฏิบัติ

ตารางด้านล่างนี้เป็นผลจากการเก็บข้อมูลจาก Trackman ซึ่งบอกเงื่อนไขการเคลื่อนที่ของลูกกอล์ฟที่ได้ระยะ Carry มากที่สุด จากข้อมูลบอกได้ว่านักกอล์ฟที่มีความเร็วหัวไม้และความเร็วลูกกอล์ฟน้อย ควรจะมีมุมเหินที่สูงและอัตราการ Spin ที่มากกว่านักกอล์ฟที่มีความเร็วหัวไม้และความเร็วลูกกอล์ฟสูง ซึ่งมุมเหินและอัตราการ Spin มีความสัมพันธ์กับมุมการเข้าลูก (Attack Angle) นักกอล์ฟที่อยากตีไกลควรมีมุมเข้าลูกเป็นมุมเสย ซึ่งมี Attack Angle เป็นบวก ยิ่งบวกมาก มุมเหินก็จะมากขึ้น ในขณะที่อัตราการ Spinจะลดลง ซึ่งจะทำให้ตีได้ไกลขึ้น

นี่คือความรู้พื้นฐานซึ่งเราจะใช้ในการวิเคราะห์เพื่อปรับปรุงวิถีการเคลื่อนที่ของลูกกอล์ฟเพื่อทำให้ตีได้ไกลขึ้น ปัจจัยทุกตัว เราสามารถปรับปรุงได้ผ่านการปรับเปลี่ยนไม้กอล์ฟและเห็นผลได้ทันที และยิ่งมีการปรับเปลี่ยนวิธีการสวิงร่วมด้วย จะยิ่งทำให้เห็นผลได้ชัดเจนมากขึ้น ... พบกันใหม่พรุ่งนี้ครับ





No comments:

Post a Comment

Note: Only a member of this blog may post a comment.